Written by วันนี้เรามีเคล็ดลับสำหรับ การส่งงานลูกค้ามาฝากช่างภาพทุกคนกันครับ
รับรองเลยว่าหากช่างภาพคนไหนได้ลองนำเอาเคล็ดลับ และ เทคนิคเหล่านี้ไปใช้แล้วละก็
รับรองว่าคุณจะได้รับการชื่นชมจากลูกค้า
และการแนะนำผลงานบอกต่อแบบปากต่อปากให้กับเพื่อนๆ ของลูกค้าคุณ
ส่งผลให้คุณมีงานใหม่ๆ เข้ามาตลอดเวลาอย่างแน่นอนครับ
ซึ่ง เคล็ดลับ ที่ผมจะนำเอามาฝากในวันนี้ ก็เป็นเคล็ดลับที่แสนจะง่าย และไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย
แต่กลับสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว เรามาดูกันเลยดีกว่าครับ ว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้าง
1.ส่งงานเร็วก่อนกำหนด
หนึ่งในสิ่งที่ลูกค้าทุกคนต้องการหลังจากถ่ายงานเสร็จ คือ “อยากดูภาพสวยๆ” ภาพความประทับใจให้เร็วที่สุด
ซึ่งช่างภาพควรจะจัดสรรตารางเวลา และตารางการทำงานให้เหมาะสมไม่แน่นจนเกินไป
เพื่อไม่ให้กระทบกับการทำภาพ และการส่งชิ้นงาน ซึ่งช่างภาพบางคนนั้น รับงานเยอะมาก
จนทำภาพส่งงานลูกค้าไม่ทัน ก็มี ซึ่งจะส่งผลเสียมากกว่าเงินที่คุณได้จากงานปริมาณมาก
แบบที่เรียกว่าไม่คุ้มค่าอย่างแน่นอน ทั้งชื่อเสียง ความไว้เนื้อเชื่อใจ คุณภาพงาน งานใหม่ ๆ
จากการบอกปากต่อปากในอนาคต ซึ่งคุณควรจะบริหารเวลา และจัดการตารางงานให้ดี
2. มีไฟล์ “ภาพไฮไลท์” ให้ลูกค้าดูก่อนแบบเร็วที่สุด
อีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ช่างภาพหลายคน อาจจะยังไม่ค่อยรู้ เคล็ดลับข้อนี้ คือ การส่งไฟล์ภาพไฮไลท์สวยๆ ให้กับลูกค้าดู
เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย และให้ลูกค้าได้อวดภาพสวยๆ ให้กับเพื่อนได้รับชมกัน
ซึ่งเคล็ดลับข้อนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ลูกค้าประทับใจมาก
ไม่ว่าคุณจะถ่ายงานเยอะหรือยุ่งมากแค่ไหน คุณก็ควรจะส่งภาพไฮไลท์ ให้กับลูกค้าไม่เกิน 1-7 วัน
อีกทั้งการส่งภาพไฮไลท์นั้น ยังถือเป็นการสร้างความไว้ใจ และความสบายใจให้กับลูกค้าอีกอย่างหนึ่งอีกด้วย
3. มีไฟล์ “ภาพรีทัชพิเศษ” แถมให้กับลูกค้า
สำหรับช่างภาพบางคนที่ส่งงานเป็นไฟล์ภาพปรับแสงสีธรรมดา
แนะนำให้ลองเลือกภาพมุมที่สวยที่สุด มาซักจำนวนหนึ่ง หรือประมาณ 10-30 ภาพ แล้วแต่แพคเกจการถ่าย นำมารีทัช
ปรับผิวเนียน ปรับสัดส่วน เพิ่มแสงสี ให้สวยงามมากยิ่งขึ้นกว่ารูปอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างมากเลยทีเดียวครับ
4. ไฟล์ “ภาพย่อขนาดพร้อมลงโซเชียล”
ลูกค้าหลายคนมักชอบบ่นว่า ไฟล์ภาพ ที่ช่างภาพส่งงานให้เวลาลงเฟสบุ๊ค หรือโซเชียลต่าง ๆ ภาพไม่คม
นั่นเป็นเพราะว่าเฟสบุ๊ค บีบคุณภาพของไฟล์ภาพให้ลดลง
ซึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ภาพคมเมื่อลงสื่อออนไลน์ต่าง ๆ คือ
ช่างภาพต้องทำภาพที่ผ่านการบีบอัดมาแล้ว ส่งให้ลูกค้าแยกเป็นอีกชุดนึง
แนบไปพร้อมกัน สำหรับลงโซเชียล รับรองลูกค้าต้องชอบและประทับใจขึ้นอย่างแน่นอน
5. ดีไซน์ “แพคเกจ” ให้ดูน่าสนใจ
นอกจากภาพที่สวยงามแล้ว แพคเกจการส่งงานของลูกค้าจะต้องดูดี
เหมาะสมกันและเข้ากันด้วย ซึ่งช่างภาพสามารถเลือกใช้กล่องแพคเกจส่งงาน หรือเติมกิมมิกต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
หรือออกแบบเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะ เพื่อสร้างความประทับใจและความแตกต่างให้กับลูกค้า
6. วีดีโอสไลด์ภาพสั้นๆ ประกอบเพลง
สำหรับช่างภาพคนไหนที่ พอจะทำสไลด์ภาพได้บ้าง
อาจจะคัดภาพมาจำนวนหนึ่งเพื่อมาทำสไลด์ภาพ ประกอบเพลง ให้กับลูกค้า อีก 1 ชุด
โดยไม่ต้องบอกลูกค้า แต่เป็นการเซอร์ไพรส์ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
และถ้าคุณสามารถถ่ายเป็นคลิปสั้นๆ ในระหว่างงานแล้วแถมเป็นไฟล์วิดีโอเล็กๆ สักหน่อยนะ ลูกค้าคงไม่มีวันลืมคุณอย่างแน่นอน
7. ส่งงาน “ด้วยแฟลชไดร์ฟ”
อีกหนึ่งเคล็ดลับ ที่เหล่าช่างภาพมืออาชีพ นิยมใช้กันเลยคือ การส่งงานด้วยแฟลชไดร์ฟ
นั่นเป็นเพราะว่า “สะดวก” “รวดเร็ว” และ “ง่ายต่อการจัดการ” เป็นอย่างมาก
ซึ่งคุณยังสามารถสกรีน หรือพิมพ์ลายบนแฟลชไดร์ฟ เพื่อ เพิ่มมูลค่า ให้กับชิ้นงานของคุณให้ดูแพง และดูหรู
มีคุณค่าทางจิตใจเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งบอกเลยนี่แหละคือเคล็ดลับของช่างภาพที่ลูกค้าอยากถ่ายงานด้วยมากที่สุด
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 7 เคล็ดลับดี ๆ แบบนี้ที่เราเอามาฝากกัน สำหรับการเพิ่มมูลค่า และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของคุณให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้านั้นพึงพอใจในชิ้นงานและบอกต่อ ๆกันถึงฝีมือ และการใส่ใจในคุณภาพชิ้นงาน ส่งผลให้คุณมีงานเข้ามาไม่ขาดสายอย่างแน่นอน
ขอบคุณภาพจาก unsplash