ปัจจุบันคอมพิวเตอร์มักเจอปัญหาเรื่องไวรัสอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเครื่องที่เป็นสาธารณะ คือใช้ร่วมกัน แต่ไม่ช่วยกันป้องกัน ทำให้ติดไวรัสได้ง่าย และสุดท้ายต้องใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการฟอร์แมตทั้งเครื่องและลง Windows ใหม่ ซึ่งต้องเสียเวลา และบางทีอาจเสียทรัพย์ ยิ่งไปกว่านั้นบางร้านที่รับทำ ดันไปฟอร์แมต Harddisk ผิดไดร์ฟ แทนที่จะล้างไดร์ฟ C กลับไปล้าง ไดร์ฟ D ของลูกค้า ถึงจะใช้โปรแกรมกู้ข้อมูล แต่ก็กลับมาได้ไม่หมด เป็นปัญหาที่ลุกลามไปเรื่อยๆ นี่เป็นเรื่องจริงที่ผมเจอในที่ทำงานแห่งหนึ่งครับ
แทนที่จะหาทางแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วิธีแก้ที่ดีที่สุดก็คือการแก้ที่ต้นเหตุครับ ก่อนที่ไวรัสต่างๆ จะเข้ามาที่เครื่อง เราควรมีโปรแกรมป้องกันไวรัสที่เครื่องเราเป็นเกราะป้องกันเอาไว้ก่อนจะดีที่สุดครับ ผมขอเปรียบกับร่างกายมนุษย์ก็แล้วกัน ไวรัสก็เหมือนโรคต่างๆ ถ้าเราออกกำลังกายเป็นเกราะป้องกันไว้ก่อน ก็ย่อมดีกว่า กับแก้ไขร่างกายเมื่อเป็นโรคแล้วถึงจะใช้ยาดีที่สุด โรงพยาบาลดีที่สุด หมอดีที่สุด ก็ยังไม่ดีเท่าร่างกายของเราแข็งแรงแล้วโรคเข้ามาไม่ได้ เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ
ที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา ไม่ได้มีเจตนาโจมตีโปรแกรมไวรัส หรืออวยโปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียตรงนี้ ดีก็ย่อมบอกต่อ ถ้าใช้ไม่ได้ก็บอกต่อแต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะใช้ไม่ได้ ให้ลองดูด้วยตนเอง ผมได้ทดลองมาแล้วหลากหลายวิธี จนปัจจุบันพอใจกับวิธีของตน เพราะไม่ได้มีปัญหากับเรื่องไวรัสใดๆ
ก่อนที่จะเขียนบทความผมก็ลองศึกษาจากเว็บบอร์ด [Pantip] ในนั้นก็มีคนบอกว่าใช้โปรแกรมอันไหนดี อันไหนไม่ดี คุณไม่ต้องเชื่อจนกว่าคุณจะได้ลองด้วยตนเอง และมีวิธีแก้ไขฉบับของตัวคุณเอง
ประมาณ 3-5 ปีมาแล้วผมเสียเงินให้กับโปรแกรมไวรัสที่ชื่อว่า [Kaspersky] ตอนแรกๆ ผมใช้แบบฟรีมาก่อน เพราะคิดว่าตัวเองมีความรู้เรื่องการแครกพอสมควร ก็เลยหาคีย์จากเว็บใต้ดินมาใช้ตลอด แต่พยายามแค่ไหนโปรแกรมมันก็ค้นเจออยู่ดี ด้วยความรำคาญ ก็เลยตัดสินใจซื้อแบบลิขสิทธิ์ ยอมเสียเงินดูดิ มันจะดีสักแค่ไหนกันเชียว
แล้วจากนั้นมาผมก็ยอมเสียเงินให้กับโปรแกรมนี้ทุกปีเลยครับ เพราะตั้งแต่ตัดสินใจซื้อลิขสิทธิ์มามันก็ไม่เคยเกิดปัญหาเรื่องไวรัสกับผมอีกเลยจริงๆ ไม่ต้องไปตามแก้ไฟล์ต่างๆ เหมือนก่อนอีกแล้ว
โดยปกติแล้ว โปรแกรมจะให้ต่ออายุได้ในราคาพิเศษแค่ปีที่สองเท่านั้น ปีที่ 3 ก็ต้องซื้อลิขสิทธิ์ใหม่ไม่สามารถ renew ได้ในราคาพิเศษ แต่โปรโมชั่นที่ดีของโปรแกรมสำหรับหน่วยงานก็ออกมา เพราะสามารถต่ออายุได้ทุกปีในราคาพิเศษ เพียงแต่เราต้องสมัครยืนยันตัวเองโดยใช้บัตรนักศึกษา หรือบัตรข้าราชการ ซึ่งมันอำนวยต่อผมเป็นอย่างยิ่ง
ในแต่ละปีคุณจะยอมเสียเงินประมาณ 300-400 บาทเพื่อป้องกันเครื่องคุณจากไวรัสไหมครับ เชื่อสิ บางคนบอกว่ามันแพงเกินไป แต่สำหรับผมมันคุ้มมากจริงๆ ครับ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผมทุกเครื่องผมยอมติดตั้งโปรแกรมลิขสิทธิ์ของ Kaspersky ทั้งหมด เสียเงินปีๆ หนึ่งก็ประมาณ 1000 กว่าบาทเท่านั้นเอง
เขียนมาถึงตรงนี้บางคนอาจบอกว่ามีโปรแกรมอื่นที่ดีอีกไหม ทำไมไม่พูดถึงเลย สำหรับผม ถ้ามันดีมากอยู่แล้วผมก็จะไม่เปลี่ยนไปใช้อันอื่น ซึ่งอันอื่นก็อาจดีมากกว่า Kaspersky อีกก็เป็นได้ อันนี้คุณก็ต้องตัดสินใจเอง ผมว่านะ โปรแกรมไวรัสอันไหนก็ดีเท่าๆกันหมด ถ้าเป็นของฟรี มันย่อมไม่เต็มที่เท่าลิขสิทธิ์อยู่แล้วเพราะมันอัพเดททุกวันจาก server กลาง ข้อมูลไวรัสใหม่ๆ เขาก็ต้องส่งมาที่เครื่องเราให้ป้องกันไวรัสไว้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจะตัดสินใจซื้อโปรแกรมไหน ก็คงจะดีเท่าๆ กัน แต่ไม่ขอพูดถึงของฟรีครับ เพราะผมรำคาญมันเหลือเกิน
เอาหละครับ พูดถึงโปรแกรม Kaspersky มาซะนาน ถ้าจะไม่พูดถึงวิธีการติดตั้งก็กระไรอยู่ แต่บทความนี้ผมจะไม่ลงลึกมากนัก เอาเป็นว่าการติดตั้งเหมือนโปรแกรมทั่วๆ ไป ผมจะขอเล่าคร่าวๆ เกี่ยวกับการใส่ key license ให้ครับ
เริ่มต้นก็ซื้อโปรแกรม จะซื้อที่ร้านขายอุปกรณ์ไอทีทั่วๆ ไปก็มีครับ เช่น JIB , Banana IT หรือถ้าสะดวกก็สั่งซื้อจากเว็บ [Kaspersky] ได้เลยครับ
ถ้าหากเป็นนักศึกษาหรือเป็นข้าราชการมีบัตรก็แสกนบัตรให้ชัดเจน แล้ว [ลงทะเบียน] ตามที่เขาบอกได้เลยครับ อาจต้องรอให้เขาตรวจสอบสักหน่อยครับ
เมื่อซื้อมาแล้วจะมีแผ่นโปรแกรมมาด้วย หรือสมัครออนไลน์จะได้ รหัสลงทะเบียน เราต้องเอารหัสเข้าไปกรอกที่เว็บและกรอกอีเมลเพื่อให้ได้ license มานะครับ ไม่ใช่เอารหัสไปกรอกเป็น license นะครับ แยกกันให้ออก
ได้ license มาแล้ว ถ้าเป็นกรณีลงได้ 3 เครื่อง ถ้าก็ติดตั้งโปรแกรมไปตามปกติ เมื่อบูตเครื่องมาแล้วโปรแกรมจะถามหา license เราก็กรอกลงไป โปรแกรมจะเริ่มนับวันถอยหลังไป 365 วัน ถ้าลงเครื่องแรกแล้ว license จะเริ่มนับเวลาเลยนะครับ แม้ว่าอีก 2 เครื่องยังไม่ลงก็ตาม ถือว่านับไปด้วย เพราะฉะนั้นถ้าจะติดตั้ง 3 เครื่องก็ติดตั้งให้พร้อมๆ กันไปเลย ไม่ใช่ว่าเก็บไว้ต่ออายุนะครับ 555+
กรณี 3 เครื่อง ผมขอเลือก แบบ internet security เลยนะครับ เพราะไวรัสมากับอินเตอร์เน็ตเยอะจริงๆ ครับ และการลงทะเบียนรับ license ให้ทำเพียงครั้งเดียวแล้ว ติดตั้งได้ 3 เครื่องเลยครับ
กรณีเราฟอร์แมตเครื่องขณะที่ลงไปแล้วหรือต้องการย้ายโปรแกรมไปติดตั้งเครื่องอื่นก็ทำได้เช่นกัน ฟอร์แมตแล้วลงใหม่เช่นเดิม มันก็นับเวลาต่อไป กรณีย้ายไปเครื่องอื่นก็ลบโปรแกรมจากเครื่องนั้นแล้วไปติดตั้งใส่เครื่องอื่นได้ server จะรู้เองเพราะใน 1 license มันจะติดต่อไปที่เครื่อง 3 เครื่องนั้นครับ ถามว่าเราติดตั้งได้เกินไหม พอเราติดตั้งเครื่องที่ 4 มันจะฟ้องว่าใช้ไม่ได้ครับ
ขั้นตอนต่างๆ อาจจะต้องอาศัยประสบการณ์นิดหน่อย ถ้าหากใครทำไม่ได้อย่างไรก็ติดต่อมาที่ผมก็ได้ครับ ยินดีช่วยเหลือครับ เพราะบทความนี้ไม่ได้ใส่รายละเอียดให้ชัดเจนครับ
บทความนี้เขียนจากประสบการณ์ของผม ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้น คือดีก็บอกต่อกันไปครับ
จุดประสงค์ลึกๆ คืออยากให้ติดตั้งโปรแกรมไวรัสที่มีลิขสิทธิ์สักหน่อยครับ ลงทุนหน่อยรับรองคุ้มค่าครับผม ^^