ต้องมีบ้างละ อาการที่เราคิดถึงไฟล์ที่หายไปจากการไม่ยอม Back up ข้อมูลเอาไว้ ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้ฮาร์ดดิสก์คุณอาจจะพังก็ได้ หรือ เกิดไวรัสลบข้อมูลสำคัญของคุณก็ได้ หากว่าคุณไม่ได้ Back up ข้อมูลไว้เป็นประจำละก็ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงแล้วละครับ ที่อาจจะสูญเสียไฟล์สำคัญไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง
การ Back up ไม่ใช่เรื่องยาก หรือน่าสับสนแต่อย่างไรครับ คุณอาจจะเคยได้ยินว่ามันยากที่จะ Back up ข้อมูล มีขั้นตอนที่ซับซ้อน มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดครับ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการ Back up ข้อมูลใดจริงๆ ด้วย
ข้อมูลส่วนตัวของคุณสำคัญไฉน?
เริ่มต้นกับคำถามง่ายๆ ว่า คุณอยากจะ Back up อะไร อย่างแรกเลยคือไฟล์ข้อมูลส่วนตัวครับ โดยปกติแล้วคุณสามารถถอนระบบปฎิบัติการเมื่อไรก็ได้ ผมหมายถึง พวก Windows นะครับ และสามารถติดตั้งโปรแกรมต่างๆ บนฮาร์ดดิสตอนไหนก็ได้ แต่ถ้าฮาร์ดดิสเสีย ข้อมูลส่วนตัวของคุณหายไป คุณไม่สามารถเอากลับคืนมาได้
ข้อมูลเอกสารส่วนตัว ภาพ วิดิโอ และข้อมูลอื่นๆ บนคอมพิวเตอร์ควรถูก Back up ไว้อย่างสม่ำเสมอ เพราะว่าไฟล์เหล่านี้มันหามาจากที่อื่นแทนไม่ได้ไงครับ บางครั้งคุณต้องเสียเวลาในการริบไฟล์ออกจาก CD หรือ DVD หลายชั่วโมง คงไม่อยากจะทำมันอีกครั้งหากข้อมูลเหล่านั้นหายไป
ระบบปฎิบัติการต่างๆ โปรแกรม และการตั้งค่าทั้งหมด สามารถถูก Back up ไว้ จะได้ไม่ต้องกลับมาติดตั้งซ้ำอีกครั้ง แต่มันจะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ ถ้าหากวันใดวันหนึ่งฮาร์ดดิสทั้งลูกเกิดพังขึ้นมา ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนชอบตั้งค่าต่างๆ ในระบบปฎิบัติการ เช่น การแก้ไข Registry การอัพเดทฮาร์ดแวร์ การกู้คืนระบบอย่างสมบูรณ์จะช่วยเซฟเวลาได้เยอะเลย เพราะคุณไม่จำเป็นต้องกลับมาทำมันซ้ำอีกครั้ง
หลากหลายวิธีการ Back up
มีวิธีการ Back up หลากหลายวิธี เริ่มจากการใช้ฮาร์ดดิสภายนอก (External Drive) ในการ Back up ไฟล์ไปจนถึงการ Back up บนเซิฟเวอร์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ต่อไปนี้คือข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธี
การ Back up ผ่านฮาร์ดดิส : กรณีที่คุณมี External Drive คุณสามารถ Back up บน Windows 10 และ Windows 8 ใช้ File History แต่สำหรับ Windows 7 ใช้ Windows Backup สำหรับบน Mac ใช้ Time Machine บางครั้งการเชื่อมต่อไดร์ฟเข้ากับคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องใช้เครื่องมือช่วย Back up หรือปล่อยให้มัน Back up อัตโนมัติก็ได้ การ Back up ด้วยวิธีนี้ถ้าไดร์ฟของคุณถูกขโมย หรือเกิดไฟไหม้ คุณจะไม่สามารถนำข้อมูลกลับคืนมาได้
การ Back up ผ่านอินเตอร์เน็ต : ถ้าอยากมั่นใจว่าไฟล์ที่สำรองไว้จะปลอดภัยจริงๆ คุณสามารถ Back up ผ่านอินเตอร์เน็ตได้ด้วยระบบอย่าง CrashPlan ซึ่งเป็นบริการ Back up ข้อมูลออนไลน์ คล้ายๆ กันกับระบบพวก BackBlaze, Carbonite หรือ MozyHome ค่าบริการต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 5 เหรียญต่อเดือน ซึ่งระบบนี้จะทำงานอยู่เบื้องหลังการทำงานคอมพิวเตอร์ของคุณโดยอัตโนมัติ โดยมันจะดึงไฟล์ขึ้นไปเก็บสำรองไว้ที่ระบบของเขา เมื่อข้อมูลของคุณสูญหาย คุณสามารถกู้ข้อมูลกลับคืนมาได้ตลอดเวลา สำหรับ CrashPlan สามารถ Back up ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นฟรี การ Back up ออนไลน์นั้น ไม่ว่าเครื่องคุณจะถูกขโมย โดนไฟไหม้หรือภัยธรรมชาติทุกชนิด ไฟล์ของคุณก็จะถูกเก็บไว้ได้อย่างปลอดภัย แต่ระบบนี้จะต้องเสียค่าบริการซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจำนวนไฟล์ที่จะ back up และระยะเวลาด้วย
การใช้บริการ Cloud Service : เป็นบริการที่ดีมากสำหรับการสำรองข้อมูลครับ บรรดากูรูต่างๆ จะแนะนำวิธีนี้ เพราะตอบสนองหลายอย่าง ไม่เพียงแต่จะเก็บบนฮาร์ดดิสของคุณ แต่ยังสามารถเก็บไว้บน Dropbox, Google Drive, Microsoft OneDrive เท่าที่รู้มีประมาณนี้ครับ แต่อาจมีบริการจากเจ้าอื่นๆ ด้วยนะ ส่วนตัวผมนั้นจะใช้ Google Drive ประจำครับ ข้อดีของมันคือ ขณะที่เราเก็บข้อมูลไว้บนเครื่องมันจะซิงค์ข้อมูลของเราเข้าไปเก็บไว้บน Cloud ได้ตลอดเวลา คุณสามารถเรียกใช้ไฟล์จากที่ไหนที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลาซึ่งผมชอบมาก วิธีนี้เป็นวิธีที่ ง่าย เร็ว สะดวก และหากไฟล์ไม่เยอะมาก ก็ฟรีอีกด้วย ดีต่อใจจริงๆ ข้อเสียมีนิดเดียวคือ หากว่าไฟล์คุณมีจำนวนมากก็ไม่เหมาะครับ เพราะเขามีพื้นที่ให้จำกัดเหมือนกัน สำหรับของผม Google Drive ปกติจะฟรีให้ 15 GB แต่ผมมีข้อมูลมากกว่านั้นจึงยอมเสียค่าบริการประมาณเดือนละ 80 บาท เพื่อแลกกับพื้นที่ 100GB ครับ
อาจจะมีคนสงสัยว่า Cloud Service ที่เราจะใช้มันจะต่างจากระบบของพวก Back up ออนไลน์ที่ต้องเสียเงินรายเดือนอย่าง CrashPlan อย่างไร แน่นอนว่า เสียเงิินย่อมดีกว่าครับ CrashPlan จะสามารถถ่ายเทและจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วกว่า จัดเก็บไฟล์ไว้หลายเวอร์ชัน ขณะที่ Cloud Service พวก Google Drive จะค่อยๆ ซิงค์ข้อมูล และพื้นที่จะจำกัดไม่เหมาะสำหรับการ Back up หนังเป็นเรื่องๆ หรือไฟล์ที่ไม่สำคัญที่มีขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ClashPlan ยังสามารถ Back up ผ่าน External Drive ได้อีกด้วย ทำให้สามารถเก็บได้ทั้งออฟไลน์ และ ออนไลน์พร้อมกันเลย
การ Back up อาจจำเป็นต้องใช้หลายวิธีผสมกัน
ในบางครั้งคุณก็จำเป็นต้อง Back up ด้วยหลายๆ วิธีผสมกันครับ ขอเรียกว่า แบบออฟไซต์ (Offsite) กับแบบ ออนไซต์ (Onsite)
สำหรับแบบออฟไซต์นั้นคือ การ Back up ไว้ใน External Drive ต่างๆ ซึ่งสามารถ Restore กลับมาเมื่อเครื่องคอมหรือ Hard disk เกิดความเสียหาย แต่สำหรับออนไซต์คือการ Back up ผ่านอินเตอร์ เช่น การ Back up ผ่านบริการ CrashPlan ซึ่งสามารถ Restore ไฟล์กลับมาผ่านเครื่องคอมเครื่องอื่นได้ฟรี วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาเมื่อเครื่องคอมของคุณถูกขโมยไปได้ครับ สิ่งที่อยากแนะนำคือ หากว่าคุณไม่สะดวกสำรองข้อมูลไว้ในฮาร์ดดิส ผมขอให้คุณสมัครใช้ Cloud Service อย่าง Google Drive, Drop box หรือ Microsoft OneDrive ครับ สมัครสักอันก่อนก็ได้ หากคุณมีบัญชี Gmail คุณจะมี Google Drive แล้วครับ ฟรี 15GB แล้วก็ Back up ข้อมูลสำคัญที่สุดลงในนั้น เช่น เอกสารสำคัญต่างๆ จากนั้นเรียนรู้การใช้งาน Google drive For PC นะครับ สำหรับผมติดตั้งไว้หลายทุกเครื่องที่ผมทำงานเลย ดีมากๆ เพราะเมื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมันจะซิงค์เอาข้อมูลขึ้นบนเซิฟเวอร์อัตโนมัติครับ ลองทำดูนะครับ ^^
อ้างอิง : http://www.howtogeek.com/242428/whats-the-best-way-to-back-up-my-computer/