หลายคนอาจสงสัยว่า เอ๊ะ ? หลังจากถ่ายภาพแล้วช่างภาพเค้าทำอะไรกันและทำไมราคาช่างภาพถึงดูแพงสำหรับบางคนซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปตามติดชีวิตช่างภาพส่วนใหญ่กันว่าเค้าทำอะไรกันนะตามมาดูกันเลยครับ
กิจวัตรประจำวันนอกจากถ่ายภาพของช่างภาพแล้วก็นั่งแต่งรูปนั่งลงผลงานนั่งหาลูกค้าแล้วก็ออกไปส่งงานลูกค้าซึ่งเรามาดูลูปการทำงานของช่างภาพกันดีกว่าครับว่ามีอะไรบ้าง
-
หางาน รองาน ขายงาน
ช่างภาพส่วนใหญ่หากยังถ่ายงานไม่ค่อยเยอะหรือยังไม่เป็นที่รู้จักมากเท่าไหร่มักจะต้องวิ่งหางานหรือรองานจากปากต่อปากจากลูกค้าเก่าหรือคอยส่งพอร์ตงานให้กับลูกค้าที่กำลังหาช่างภาพ
[box type=”info”]FlashDriveDD แนะนำ ว่าหากคุณยังไม่เป็นที่รู้จัก ขอให้สร้างผลงานที่สามารถแสดงบนออนไลน์จะดีกว่า เช่น การสร้าง Gallery ออนไลน์ของตัวเอง และทำแบบสวยๆ โชว์ผลงานออกไป เยอะๆ และบ่อยๆ เท่าที่จะทำได้ จะทำให้คุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับ Theme WordPress ที่เหมาะกับช่างภาพ [ที่นี่][/box]
-
ติดต่อคุยรายละเอียดตกลงราคากับลูกค้านัดวันจ่ายมัดจำ
ขั้นตอนนี้ช่างภาพก็จะแจ้งรายละเอียดพร้อมนัดวันถ่ายงานและล็อควันพร้อมจ่ายมัดจำไว้เพื่อล็อคคิวงานขั้นตอนนี้หลังจากได้มัดจำแล้วช่างภาพก็จะใจชื่นดีใจแล้วว่าไม่ต้องกินมาม่าแล้ว (T_T)
[box type=”info”]FlashDriveDD แนะนำ คุณควรมีใบเสนอราคา มีโลโก้ตัวเองเพื่อให้มันดูมืออาชีพสักหน่อยนะครับ เช่นมีใบวางบิล ใบแจ้งหนี้อะไรพวกนี้ ขอแนะนำเครื่องมือที่จะช่วยให้ออกใบเอกสารต่างๆ จาก Flowaccount ครับ ลองใช้แล้วดีจริงๆ เลยต้องบอกต่อ กระซิบอีกนิดหนึ่งว่า มันส่งใบเสนอหรือทำงานผ่านมือถือได้ด้วยนะ[/box]
-
วันถ่ายงาน
ถึงวันถ่ายงานจริงช่างภาพก็ไปถ่ายงานตามที่นัดวัน เวลา สถานที่ไว้ จนเสร็จจบงาน ขั้นตอนนี้ช่างภาพจะต้องเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ไปให้ครบ นัดหมายหากมีผู้ช่วย ชาร์ตแบตให้เต็ม และควรมีแบตสำรอง
[box type=”info”]FlashDriveDD แนะนำ คุณควรมีเอกลักษณ์ในการปรากฏตัวว่านี่เป็นช่างภาพ ช่างภาพบางคนจะแต่งตัวเนียบมาก บางคนจะแต่งตัวเซอๆ บางคนจะมีอุปกรณ์เยอะเต็มไปหมด ก็ขอให้แต่งไปแบบว่าเข้ากับงานสักหน่อยนะครับ เช่น ธีมงานแต่งสีชมพู ช่างภาพควรแต่งตัวสีชมพูไป แต่มีเอกลักษณ์เด่นให้เห็นชัดว่านี่เป็นช่างภาพ เช่น มีเสื้อกั๊ก โลโก้ของตัวเอง หรือการใส่กระเป๋ารอบเอวไว้เก็บกล้องที่มีแบรนด์ของตัวเองติดเอาไว้ครับ [/box]
-
ทำรูปส่งลูกค้า
หลังจากกลับมาจากถ่ายงานก็รีบ ปั่นงานส่งลูกค้า เพื่อให้มีเวลารับงานเพิ่มและปั่นงานใหม่หากมีเข้ามา ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่หนักหน่วงไม่แพ้กัน กับวันถ่ายภาพ เพราะช่างภาพจะต้องอดหลับอดนอน เพื่อแต่งรูปลูกค้าให้ออกมาสวย ฟรุ้งฟริ้ง ตามสไตล์ช่างภาพแต่ละคน
[box type=”info”]FlashDriveDD แนะนำ การมีสไตล์ของตัวเอง จะทำให้คุณได้ลูกค้าเร็วขึ้น เพราะถ้าหากลูกค้าเลือกคุณจากภาพที่คุณแต่ง เขาจะคาดหวังสไตล์การแต่งภาพมาก่อนจากการดูภาพของคุณแล้ว ในตอนแรกนั้นคุณอาจจะลองแต่งหลายๆ แนว ศึกษาข้อมูลเรื่อยๆ เช่น มุมมองต่าง หรือเทคนิคใหม่ๆ หากคุณเก่งภาษาอังกฤษผมแนะนำ couse online จาก Udemy แต่ถ้าไม่เก่งภาษาคุณก็ศึกษาคอร์สออนไลน์ หรือติดตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการแต่งภาพไว้ครับ เช่น Fotofaka [/box]
- ถ่ายงานอื่นต่อ
ช่างภาพหลายคนที่มีงานเยอะๆ มักมีถ่ายงานซ้อน ติดๆ กัน ทำให้การทำภาพส่งลูกค้านั้นช้าลง จึงต้องมีการเร่งปั่นงาน เพื่อให้ส่งงานได้ทันตามกำหนด ซึ่งจะมีสัปดาห์นรก เหมือนหน่วยซิล เลยก็ว่าได้ ที่ต้องปั่นงานกันอดหลับอดนอน ซึ่งหลังจากผ่านสัปดาห์นี้ไปได้ ก็จะสบายได้พักผ่อน รองานถัดไป
-
ส่งงานลูกค้า
หลังจากทำรูปเสร็จแล้วก็ถึงเวลาส่งงานให้ลูกค้า อาจมีการอัพภาพบางส่วนพอเป็นน้ำจิ้มให้ลูกค้าแท๊กเพื่อนโชว์รูปสวยๆ ก่อน หลังจากส่งงานลูกค้าแล้วก็เป็นอันจบขั้นตอนชีวิตช่างภาพ แล้วก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ไปยังขั้นตอนที่หนึ่งวนไปเรื่อย ๆ
[box type=”info”]FlashDriveDD แนะนำ การส่งงานลูกค้าแต่ก่อนจะส่งแบบ CD หรือ DVD แต่ปัจจุบันไฟล์งานอาจใหญ่ขึ้น เช่น ช่างภาพบางคนอาจส่งไฟล์วิดิโอด้วยทำให้แผ่น DVD ไม่เพียงพอ จึงมองหาอุปกรณ์อื่นๆ จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากแฟลชไดร์ฟ ซึ่งมีรูปแบบหลายอย่าง ในเว็บของเราก็มีหลายแบบนะ อิอิ แอบโฆษณาหน่อย ซึ่งแบบที่ช่างภาพสนใจและขายดีที่สุดเห็นจะเป็นแบบไม้รวมกล่อง ซึ่งแบบล่าสุดที่มีใหม่สามารถใส่ภาพ 4*6 นิ้วได้อีกด้วยนะจ๊ะ[/box]
เป็นยังไงกันบ้างครับ ชีวิตช่างภาพ หลายๆคนคงจะเห็นภาพกันบ้างแล้วว่าเป็นช่างภาพ มันไม่ง่ายเลย ต้องมีความรับผิดชอบ และตรงต่อเวลา รวมทั้งยังต้องมีวินัยต่อตนเองและแม้ว่าจะถ่ายงานจบแล้วก็ต้องมีการแต่งภาพซึ่งใช้ระยะเวลาหลายวัน ก็จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรวมอยู่ในค่าถ่ายงานเรียบร้อยแล้ว